อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
อย่าพึ่งลงลึกไปสู่รายละเอียดเชิงลึกทางเทคนิค ลองค้นหาดูก่อนว่าเงินดิจิตอลคืออะไร และวิธีการใช้งานทำได้อย่างไร
เงินดิจิตอลเป็นสกุลเงินจากหน่วยดิจิตอล หรือเงินเสมือนจริงอย่างหนึ่ง ที่จะสามารถใช้แทนเงินจริงได้ โดยลักษณะที่เด่นของเงินดิจิตอลก็คือ การกระจายอำนาจที่ไม่ได้รับผลกระทบจาก การควบคุมดูแลหรือการจัดการของทางรัฐบาล
มีความแตกต่างออกไปจากเงินโดยทั่วไป เพราะว่าจำนวนเงินดิจิตอลนั้นค่อนข้างมีจำนวนจำกัด มันเป็นไปไม่ได้ที่จะทำการออกจำนวนเหรียญดิจิตอลออกมาแบบไม่จำกัดจำนวน เนื่องจาก เงินดิจิตอลโดยส่วนมากแล้ว มักจะนำมาเทียบเคียงกับโลหะมีค่า มากกว่าเงินดอลลาร์สหรัฐ หรือเงินยูโร
บิทคอยน์ เป็นเงินดิจิตอลที่ไม่ถูกควบคุมจากสถาบันทางการเงินอันดับแรก โดยเงินดิจิตอลนั้นได้ถูกสร้างขึ้นมาในปี 2009 ที่จริงแล้วมีการอ้างอิงมาตั้งแต่วันที่ 31 เดือนตุลาคม ปี 2008 ที่มีชายคนหนึ่งนามว่า Satoshi Nakamoto ที่เรียกว่าเป็นผู้ก่อตั้งบิทคอยน์ออกมา โดยมีการนำเสนอเอกสารที่ออกมาพร้อมกับชื่อเรื่องว่า Bitcoin: A Peer-to-Peer Electronic Cash System หลังกจานั้น บิทคอยน์ก็ได้เริ่มต้นยุคสมัยใหม่ของเงินดิจิตอลทันที ต่อจากนั้นบล็อคแรกที่มาพร้อมกับ บิทคอยน์ 50 เหรียญก็ถูกสร้างขึ้นมา และ การทำธุรกรรมครั้งแรก รวมทั้งการแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดเองก็มีการดำเนินการขึ้นมา ในวันที่ 25 เดือนเมษายนปี 2010 พบว่า มีเงินบิทคอยน์ถึง 1,000 เหรียญ ที่มีการขายออกไปอย่างเป็นทางการครั้งแรก ในตอนนั้น บิทคอยน์ได้มีมูลค่าอยู่ที่ 0.3 เซ็นต์ ตั้งแต่นั้นมาต้นมาจนถึงปลายปี 2017 ราคาของบิทคอยน์ก็ทะยานตัวขึ้นมามากกว่า USD 19,000
นักขุดจากทั่วโลกต่างก็ทำการผลิตเงินบิทคอยน์ออกมา มีเครื่องคอมพิวเตอร์มากกว่าลานเครื่องที่ได้มีการดำเนินการเช่นนี้ในแต่ละวัน เพื่อทำการสร้างบล็อคใหม่ขึ้นมา และทำการเก็บบันทึกการทำธุรกรรม พร้อมกันนั้นก็ยังมีระบบจะได้รับการควบคุมในลักษณะที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะจำนวนของบิทคอยน์ที่สร้างขึ้นมา โดยที่จำนวนของบิทคอยน์นั้นถูกกำหนดไว้ใน 21 ล้านเหรียญ ซึ่งนี้เป็นเหตุผลว่าทำไมมันถึงเรียกว่าเป็น ทองคำดิจิตอล
ในปี 2016 และปี 2017 การซื้อขายบิทคอยน์ ได้มีการเติบโตขึ้นมาอย่างมาก และยังเป็นที่นิยัมในหมู่เทรดเดอร์ค้าปลีก และนักลงทุนรายใหญ่ พื้นที่การซื้อขายชั้นนำอย่างเช่น เครือ CME และ CBOE Global Markets เองก็ได้ออกมานำเสนอคุณลักษณะของการซื้อขายด้วยเงินบิทคอยน์ออกมา ซึ่งบิทคอยน์เองก็กลายเป็นสกุลเงินดิจิตอลที่มีความต้องการมากที่สุดไป แล้วยังเป็นทราบกันดีว่าเป็น สินทรัพย์ที่มีการซื้อขายได้จริง และกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของระบบทางการเงินในระดับโลก
เทรดเดอร์สามารถมีรายได้จากความผันผวนของราคาบิทคอยน์ แม้ว่าไม่ได้ทำการซื้อเงินดิจิตอลก็ตามที เนื่องจากเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ เทรดเดอร์สามารถซื้อสัญญาการซื้อขายส่วนต่าง(CFD) ในราคาบิทคอยน์ได้ ตราบนานจนกว่าสัญญายังเปิดอยู่ในบัญชีของคุณ คุณก็จะได้รับผลกำไรเช่นเดียวกับการที่บิทคอยน์ ได้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นมา ราวกับว่าคุณเป็นเจ้าของเงินบิทคอยน์ แต่มีเพียงเงื่อนไขเดียวก็คือ ต้องทำการคาดการณ์ให้ถูกต้องสำหรับทิศทางของราคาบิทคอยน์
แม้ว่าจะเป็นสินทรัพย์ตัวใหม่ของทางฟอเร็กซ์ ก็มีคำแนะนำมากมายที่จะเป็นข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการซื้อขายในเงินดิจิตอลที่ได้รับความนิยมในส่วนนี้ อย่างแรก บิทคอยน์นั้นค่อนข้างมีปฏิกริยาตอบสนองอย่างรวดเร็วต่อการรายงานข่าว เป็นที่น่าสนใจอย่างมากเพราะ ตราสารประเภทนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับ ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคจากทางสหรัฐอเมริกาเพียงอย่างเดียว แต่ถึงอย่างไรก็ตาม บิทคอยน์ก็จะมีการสนองแบบทันท่วงทีเมื่อมีการรายงานข่าวเกี่ยวกับเงินดิจิตอลด้วยเช่นกัน ดังนั้นแล้ว ก่อนที่จะทำการเปิดสถานะ เทรดเดอร์ควรทำการตรวจสอบดูการลงทุนขนาดใหญ่จากทางบริษัท, การจู่โจมทางโลกไซเบอร์ในตลาดแลกเปลี่ยนเงินดิจิตอล และความเห็นจากทางธนาคารและสถาบันทางการเงินของประเทศ จากนั้นก็เลือกกลุยทธ์ และตรวจสอบให้มั่นใจว่าจะสามารถปรับใช้กับระบบการซื้อขายตามปกติได้หรือไม่ สำหรับการจัดการเงิน และออเดอร์การหยุดก่อนการขาดทุนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างแน่นอนกับคำถามส่วนนี้
ถ้าหากคุณเป็นมือใหม่ในตลาดการเงินแล้วละก็ ต้องมั่นใจว่าคุณทราบคำแนะนำจากการวิเคราะห์ทั้งหมด ก่อนที่จะทำการเปิดสถานะ อย่างเช่น นักวิเคราะห์ของ InstaTrade ได้โพสต์และคาดการณ์ต่อเงินบิทคอยน์ รายวัน.
โดยรวมแล้ว เทรดดิ้งบิทคอยน์ นั้นไม่ได้มีความซับซ้อนที่สูง สำหรับการเปลี่ยนแปลงในราคาบิทคอยน์ ก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการปรับตัวขึ้น หรือปรับตัวลง ของเงินดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ ในทุกๆวัน เงินดิจิตอลเหล่านี้จะยิ่งได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆในโลกทางการเงิน ในพอร์ตของการลงทุนล่าสุดก็ได้มีการใช้งานร่วมกับเงินบิทคอยน์แล้วด้วย สิ่งที่พวกเราพบอยู่ในตอนนี้ก็คือรุ่งอรุณของตลาดเงินดิจิตอล คว้าโอกาสตรงนี้ไป เพื่อประโยชน์ในวันข้างหน้า!
แม้ว่าบิทคอยน์ ที่เป็นเงินดิจิตอลชนิดแรกๆ ที่ได้ปรากฎตัวออกมาตั้งแต่ 10 ปีที่ผ่านมา แต่สถานภาพทางกฎหมายของเงินดิจิตอลก็ยังไม่มีการระบุแน่ชัดออกมา แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เงินดิจิตอลเองก็ยังมีความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นทั้งสังคมในระดับโลก และแต่ละประเทศ ต่างก็พยายามที่จะมากำหนดรายละเอียดของประเด็นนี้กันอยู่ มันยังค่อนข้างเร็วที่จะมาหารือกันเกี่ยวกับ สถานภาพทางกฎหมายโดยทั่วไปในแต่ละประเทศ แต่ก็มีหลายประเทศที่ได้เตรียมการด้านกฎหมายออกมาเพื่อทำการควบคุม การใช้งานเงินดิจิตอลไว้แล้ว แต่ก็มีในบางประเทศก็ต้องการที่จะห้าม หรือกำหนด การใช้งานเงินดิจิตอล อย่างเช่น บังคลาเทศ, โบลิเวีย, จีน, เอกวาดอร์, ไอซ์แลนด์, อินโดนีเซีย, คีร์กีซสถาน, เลบานอน, รัสเซีย, ไทย, เวียดนามและอื่น ๆ นอกจากนั้นแล้ว ก็ยังมีอีกบางประเทศที่ทำการกำหนดขอบเขตทางกฎหมาย สำหรับการใช้งานเงินดิจิตอลเข้าสู่เศรษฐกิจของตนเอง อย่างเช่น ออสเตรเลีย,เบลเยียม,แคนาดา,ไซปรัส, เดนมาร์ก รวมทั้ง ฝรั่งเศส,เยอรมนี,ฮ่องกง,อิสราเอล ,อิตาลี, ญี่ปุ่น, นิวซีแลนด์,นอร์เวย์, สิงคโปร์,เกาหลีใต้,สเปน,สวิตเซอร์แลนด์,สวีเดน,ตุรกี,สหราชอาณาจักร,สหรัฐอเมริกาและประเทศอื่น ๆ ที่ได้เตรียมพร้อมสำหรับการรับเงินดิจิตอลเข้ามาในระบบ
ประเทศญี่ปุ่นได้มีการเดินหน้ามากที่สุดในประเด็นส่วนนี้ เพราะมีการยอมรับเงินบิทคอยน์อย่างเป็นทางการ ในการเป็นสื่อกลางของการชำระเงิน ในประเทศจีน ก็ขึ้นอยู่กับรายบุคคลที่จะใช้งานเงินดิจิตอล ในการทำธุรกรรมของสหภาพยุโรปกับ บิทคอยน์เองก็ถือเป็นธุรกรรมการชำระเงินด้วยสกุลเงิน, เหรียญและธนบัตร ดังนั้นแล้ว บิทคอยน์จึงไม่ใช่สินทรัพย์ที่ต้องเสียภาษีในยุโรป แต่ โดยวิธีการที่การจัดเก็บภาษีเป็นอีกหนึ่งประเด็นสำคัญ เพราะการใช้ทุนของของตลาดเงินดิจิตอลนั้น ได้ขยับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากจนถึงมูลค่าที่กำหนดไว้ แต่ก็ยังปรับตัวขึ้นตามเดิม ไม่ใช่เครื่องมือของทางรัฐบาลจะออกจากตลาดที่ทำกำไรได้เช่นนี้
เงินดิจิตอล ได้มีการเดินหน้าไปมากกว่านักฎหมาย รัฐบาลของหลายประเทศยังไม่เห็นด้วยในเรื่องนี้และ ไม่สามารถให้คำจำกัดความที่ถูกต้องได้ ในบางประเทศให้พื้นที่กับเงินบิทคอยน์ ขณะที่บางประเทศเลือกที่จะกำหนดข้อบังคับออกมา อย่างไรก็ตามการกระจายอำนาจ ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อดีหลักของเงินบิทคอยน์ ก็ได้ไปยับยั้งเจ้าหน้าที่จากการควบคุม และนี่คือเหตุผลที่ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่คิดว่ารัฐบาลไม่มีทางเลือกอื่นนอกเหนือจากการยอมรับเงินดิจิตอล และกำหนดสถานะทางกฎหมายออกมา
เพิ่มตราสารการซื้อขายใหม่ลงไปในพอร์ตการลงทุนของคุณ และไปเก็บเกี่ยวผลกำไรได้ทันที!
นักลงทุนมีมุมมองที่แตกต่างกันเกี่ยวกับบิทคอยน์ แต่ปรากฏการณ์นี้ไม่ควรถูกมองข้ามไปได้อย่างแน่นอน
เล็งเห็นถึงโอกาสในการเข้าสู่ยุคของสกุลเงินดิจิตอล! InstaTrade พร้อมให้ความช่วยเหลือกับคุณ !
ทางเราขอนำเสนอ:
นอกจากนั้นแล้ว ก็คือชื่อเสียงของพวกเรา! ทาง InstaTrade ได้รับชื่อเสียงจากการเป็นหุ้นส่วนที่มีความน่าเชื่อถือ และนี้เป็นสิ่งที่พิสูจน์ถึงความจริงที่ว่า มีลูกค้ามากกว่า 7,000,000 คนที่ได้เชื่อมั่นในบริษัทของพวกเรา
สมาชิกInstaForex
Your IP address shows that you are currently located in the USA. If you are a resident of the United States, you are prohibited from using the services of InstaFintech Group including online trading, online transfers, deposit/withdrawal of funds, etc.
If you think you are seeing this message by mistake and your location is not the US, kindly proceed to the website. Otherwise, you must leave the website in order to comply with government restrictions.
Why does your IP address show your location as the USA?
Please confirm whether you are a US resident or not by clicking the relevant button below. If you choose the wrong option, being a US resident, you will not be able to open an account with InstaTrade anyway.
We are sorry for any inconvenience caused by this message.